การออกเสียง ภาษาจีน อาจจะยากสักหน่อยสำหรับคนไทย เพราะบางเสียงก็ไม่อาจเทียบเคียงกันได้ แต่คนไทยจะได้เปรียบชาติอื่นๆ ในการเรียน ภาษาจีน ตรงที่ภาษาไทยของเรานั้นมีวรรณยุกต์จึงไม่ยากเกินความพยายามของเรา ในช่วงเริ่มเรียนแรกๆ อาจจะใช้ภาษาไทยเขียนกำกับคำอ่านก่อนก็ได้ แต่เมื่อเรียนไปสักพักควรจะใช้แต่พินอิน เพราะจะเป็นการช่วยฝีกอ่านและได้เสียงที่แม่นยำมากกว่า
เสียงพยัญชนะทั้ง 21 เสียงในภาษาจีน
b
|
p
|
m
|
f
|
d
|
t
|
n
|
l
|
g
|
k
|
h
| |
j
|
q
|
x
| |
z
|
c
|
s
| |
zh
|
ch
|
sh
|
r
|
เสียงสระใน ภาษาจีน มีทั้งหมด 36 เสียง แบ่งเป็นสระเดี่ยว 6 เสียง และสระผสมอีก 30 เสียง
สระเดี่ยว
|
สระผสม
| ||||
a
|
ao
|
ai
|
an
|
ang
| |
o
|
ou
|
ong
| |||
e
|
ei
|
er
|
en
|
eng
| |
i
|
ia
|
ie
|
iao
|
iu(iou)
|
ian
|
in
|
iang
|
ing
|
iong
| ||
u
|
ua
|
uo
|
uai
|
ui(uei)
|
uan
|
un(uen)
|
uang
|
ueng
| |||
ü
|
üe
|
üan
|
ün
|
เสียงวรรณยุกต์ใน ภาษาจีน มี 4 เสียง
เสียงที่ 1
|
เสียงที่ 2
|
เสียงที่ 3
|
เสียงที่ 4
|
ˉ
|
/
|
ˇ
|
\
|
เทียบเสียงกับวรรณยุกต์ใน ภาษาไทย
| |||
สามัญ
|
จัตวา
|
เอก
|
โท
|
ตัวอย่าง
| |||
bā
|
bá
|
bǎ
|
bà
|
ปา
|
ป๋า
|
ป่า
|
ป้า
|
การออกเสียง พินอิน